เคลียร์ปัญหาสิงห์ปาร์ค-ชาวบ้านแม่กรณ์ยังไม่ลงตัว ถนนสร้างใหม่ทำน้ำท่วม เกาะกลางปิดทางเข้าหมู่บ้าน ป.ป.ช.ชี้ ผู้รับเหมายังไม่ส่งมอบงาน ยังมีโอกาสแก้ไขได้
***เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ต.ค. 2565 ที่สถานีตำรวจชุมชนขุนกรณ์ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ นักจัดรายการวิทยุชุมชน พร้อมตัวแทนเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย ชาวบ้าน ม.1, ม.12 และ ม.21 ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย เปิดการเจรจาเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาระหว่างชาวบ้านใน ต.แม่กรณ์ดังกล่าวกับตัวแทนจากสิงห์ปาร์ค เชียงราย บริษัท บุญรอดบริวเวอร์รี่ จำกัด กรณีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนใหม่ และการรางระบายน้ำข้างถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ บริเวณหน้ามูลนิธิสร้างสรรค์อาข่าไปจนถึงหน้าบ้านเลขที่ 46 บ้านประตูล้อ ติดกับสิงห์ปาร์คเชียงราย ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้ว ซึ่งการนัดเจรจากันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยมีตัวแทนจากไร่บุญรอด, แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1, และป.ป.ช.จังหวัดเชียงราย ร่วมสังเกตการณ์ โดยข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและขอให้แก้ไข มี 4 ข้อ ได้แก่ 1. ชาวบ้านขอให้ทาง บ.บุญรอด ชี้แจงว่าปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำหลักกี่อ่าง ตรงไหนบ้าง อ่างสำรองเพื่อระบายน้ำมีหรือไม่ และขอให้บ.บุญรอดร่วมทำ MOU กับชาวบ้านเพื่อการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังร่วมกัน 2. ต้องการให้แขวงการทางเชียงรายดำเนินการแก้ปัญหาการทำทางระบายน้ำที่ไม่สามารถระบายน้ำได้เป็นการเร่งด่วน 3. ขอให้ทำประตูเปิด-ปิดน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากบ้านประตูล้อและบ้านแม่กรณ์ให้มีความชัดเจน 4. ขอให้รื้อเกาะกลางถนนทางเข้าหมู่บ้านบ้านหนองเขียว หมู่ 12 เพราะเป็นทางสาธารณะ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน และเกิดอุบัติเหตุในการสัญจรบ่อยครั้ง
***หลังการเจรจาและรับข้อเสนอร่วมกันเพื่อนำไปหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งเป็นการเจรจากันเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างขยายถนน จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร การปรับปรุงถนนดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นกับชาวบ้านในพื้นที่ คือ ท่อระบายน้ำของชุมชนและที่บริเวณหน้าไร่บุญรอดมีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งที่หน้าไร่บุญรอดจะใช้ท่อกลมขนาด 120 ซม. เป็นท่อระบายน้ำ แต่ในชุมชนเป็นท่อเหลี่ยมขนาด 70 ซม. ทำให้เวลามีฝนตกหนักทำให้น้ำเอ่อท่วมชุมชน ม.1 และ ม.21 ทั้งที่ก่อนหน้าจะมีการก่อสร้างถนนดังกล่าว ชาวบ้านไม่เคยเจอปัญหาน้ำท่วมขังแบบนี้มาก่อน
***นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเกาะกลางถนนบริเวณด้านหน้าสิงห์ปาร์ค ระยะทางประมาณ 200-300 เมตร ซึ่งเกาะกลางดังกล่าวปิดทางเข้าออกหมู่บ้านหนองเขียว ม.12 ซึ่งมีทางเข้าออกด้านข้างของสิงห์ปาร์ค เพราะเป็นทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำ อยากให้ทางแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 พิจารณาแก้ไขการก่อสร้างดังกล่าวที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอยู่ในเวลานี้
***การเจรจาที่ผ่านทั้ง 4 ครั้ง ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากไร่บุญรอดและแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 ต่างส่งตัวแทนมารับเรื่องซึ่งไม่มีอำนาจการตัดสินใจ ชาวบ้านจึงอยากให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจได้มารับเรื่อง เพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข โดยผู้แทนของไร่บุญรอดและแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 ได้รับปากที่จะนำเอาปัญหาและข้อกังวลของชาวบ้านไปรายงานต่อผู้บริหารต่อไป โดยมีนายนั้ง แสงเพชรไพบูรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ปปช.เชียงราย ร่วมเป็นสักขีพยานและสังเกตการณ์
***ภายหลังการเจรจาตัวแทนชาวบ้านได้พาสื่อมวลชนไปดูสถานที่ที่เป็นปัญหา ทั้งเกาะกลางหน้าไร่บุญรอด ซึ่งสร้างมาเพื่อเป็นทางเบี่ยงเข้าสู่ไร่บุญรอด ซึ่งพบว่าเป็นเกาะกลางที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า เกาะกลางดังกล่าวได้ปิดกั้นทางเข้าออกบ้านหนองเขียว ม.12 ชาวบ้านที่เคยใช้ถนนด้านข้างไร่บุญรอดไม่สามารถใช้สัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้เหมือนอย่างเคย ซึ่งการทำเกาะกลางดังกล่าว นอกจากจะปิดทางเข้าออกหมู่แล้ว ยังทำให้ถนนหลักมีขนาดแคบลง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และท่อระบายน้ำด้านหน้าสิงห์ปาร์ค และบริเวณชุมชนมีขนาดไม่เท่ากันจริง โดยปัญหานี้ทางแขวงการทางให้ข้อมูลว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาที่จะปรับปรุงให้กับชาวบ้านอยู่ โดยทางตัวแทนของสิงห์ปาร์คก็ให้ข้อมูลว่า ทั้งท่อระบายน้ำและเกาะกลางเป็นการออกแบบของทางแขวงการทาง หากจะมีการแก้ไขปรับปรุงก็อยู่ในอำนาจที่ทางแขวงจะพิจารณา
***ทางด้าน ป.ป.ช.จังหวัดเชียงราย ที่มาร่วมสังเกตการณ์กล่าวว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการตรวจรับหรือส่งมอบงาน ก็ต้องมานั่งคุยกับชาวบ้านก่อนว่า จะแก้อย่างไร ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งยังพอมีโอกาสแก้ไขงานได้ ทั้งนี้ต้องเจรจากับทางผู้รับเหมาด้วย ทางชาวบ้านอาจมีการเคลื่อนไหวโดยไปยื่นหนังสือกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหรือผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายหากปัญหาต่างๆยังไม่ได้รับการแก้ไข
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์