รองผู้ว่าฯเชียงรายมอบนโยบายราชการทำงานร่วมเอกชน เสนองานอย่าเกรงใจนายเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัด ปธ.สภาอุตฯเชื่ออุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเชียงรายยังไปได้
***เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ม.ค.2566 ที่ห้องประชุมสภาอุตสาหกรรมจังกวัดเชียงราย นายสมหวัง บุญระยอง รองผวจ.เชียงราย พบปะสมาชิสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงรายและมอบนโยบายการพัฒนาจังหวัดเชียงรายรวมภาคเอกชน ในการประชุมประจำเดือนมกราคม 2566 สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย มีนายอภิพันธ์ ภู่ภักดี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานความเป็นมาของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ก่อนการประชุมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงรายตามวาระ นายสมหวัง บุญระยอง รองผวจ.เชียงราย ได้กล่าวแนะนำตัวและมอบนโยบายการทำงานร่วมภาคราชการกับภาคเอกชนเพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงรายให้มีทิศทางที่ถูกต้องตามเป้าหมายของพื้นที่
***นายสมหวัง บุญระยอง รองผวจ.เชียงราย กล่าว ตนเองเคยเป็นโยธาธิการจังหวัดเชียงรายเมื่อ 10 ปีก่อน และเคยทำงานในภาคเอกชนมาก่อน เข้าใจวิธีทำงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรม เป็นตัวจักรสำคัญที่จะทำให้จังหวัดพัฒนาไปได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งหอการค้าและสมาคมท่องเที่ยวด้วย การบริหารงานราชการถ้าเป็นการบริหารแบบเอกชนก็เป็นเรื่องที่ดี จึงมีการประชุมคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จังหวัดขึ้นเพื่อให้มีการพูดคุยกัน การประชุม กรอ. อยากให้มีการเสนออย่างตรงไปตรงมา คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น ไม่ต้องเกรงใจผู้บริหาร ถ้าเกรงใจนายก็จะไม่ใช่เป็นการประชุม แต่จะกลายเป็นการรับฟังข้อสั่งการมากกว่า เป็นการคิดแบบฝ่ายเดียว ไม่เป็นการระเบิดความคิด ซึ่งจะไม่เกิดประโยชน์ในการพัฒนา การคิดแบบราชการเป็นการคิดแบบไม่ระเบิด เป็นการคิดอยู่ในกรอบกฎกติกา ประธานในการประชุมมีหน้าที่รวบรวมความคิดเห็นนำมาประมวนผลและขอมติในที่ประชุมเพื่อดำเนินการจึงจะขับเคลื่อนประโยชน์ให้แก่การพัฒนาจังหวัดได้
***นายอภิพันธ์ ภู่ภักดี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากการหารือกันระหว่างสภาอุตสาหกรรมกับ ผวจ.เชียราย อุตสาหกรรมจังหวัด อุตสาหกรรมในจังหวัดเชียงรายส่วนใหญ่ควรเน้นเป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย BCG Model ของรัฐบาลเป็นหลัก อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่มีแนวคิดที่จะทำในพื้นที่ ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปผลิตผลที่มีอยู่ในประเทศ เช่น สับปะรด ชา กาแฟ สมุนไพร แม้จะยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนนัก แต่ก็มีบทบาทมากพอสมควรที่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตร
***ในโอกาสที่ประเทศจีนจะเปิดประเทศให้มีการเดินทางเข้าออกประเทศได้หลังจากปิดประเทศมากว่า 3 ปีเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เชียงรายคงยังไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งจีนเองก็คงไม่ได้มองที่จะตั้งโรงงานขนาดใหญ่ในพื้นที่เชียงราย แต่ถ้าเป็นอุสาหกรรมการเกษตรน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เนื่องจากจีนกับเชียงรายไม่ได้ห่างไกลกัน อุตสาหกรรมจากจีนที่มีความเป็นไปได้ในการลงทุนน่าจะเป็นศูนย์ซ่อมสร้างธุรกิจการบิน ซึ่งท่าอากาศยานเชียงรายมีศักยภาพมาก และ BOI ได้ให้สิทธิพิเศษในการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจการบินไว้ด้วย
***ด้านการค้าชายแดนที่ยังเปิดพรมแดนได้ยังไม่เต็มรูปแบบ ในปี2566 นี้มีแนวโน้มคาดการว่าจะดีขึ้น 10 % ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการขนส่งที่ล่าช้า ถ้าจีนเปิดประเทศแล้วการขนส่งดีขึ้น มูลค่าสินค้าต่างๆก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอุตสาหกรรมของเชียงรายที่โดดเด่นของปี 2566 เป็นอุตสาหกรรมด้านการเกษตรจะเป็นอุตสาหกรรมปลักของจังหวัดเชียงรายที่จังหวัดควรให้การผลักดัน คาดว่าภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดเชียงรายจะสามารถทำรายได้เข้าจังหวัดแตะหลักหมื่นล้านบาทในปี 2566 นี้
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์