จาก “เวทีนางงาม” สู่ “เวทีการเมือง” สายเลือดใหม่อุดมการณ์มั่นคง “อเล็กซ์” ศรัณย์พัส ศรีสวัสดิ์” พัฒนาเชียงรายเป็นเมืองหลัก 3 ด้าน

***เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2566 ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านแม่ลาวท่าสาย ม.4 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย นายศรัณย์พัส (อเล็กซ์) ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้จัดการกองประกวดมีสแกรนด์เชียงราย สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐพบปะประชาชนเปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวเองในฐานะว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดเชียงราย เขต 1 โดยมีนายพิษณุ เขื่อนเพชร และนายวัชระพงษ์ ปิโย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พรรคพลังประชารัฐ ร่วมเวทีปราศรัย มีประชาชนสนใจเข้าร่วมฟังการปราศรัยกว่า 500 คน จนล้นออกมานอกศาลาอเนกประสงค์  

***นายศรัณย์พัส ศรีสวัสดิ์ กล่าวปราศรัยนโยบายสวัสดิการสังคมของพรรคพลังประชารัฐว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐโดยมี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี มีนโยบายสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นธรรม ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จะเพิ่มวงเงินจากเดิม 300 บาท เป็น 700 บาท เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ ช่วงอายุ 60-69 ปี รับ 3,000 บาท/เดือน ช่วงอายุ70-79 ปี รับ 4,000 บาท/เดือน อายุ 80 ปีขึ้นไป รับ 5,000 บาท/เดือน เงินสงเคราะห์หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ 5 เดือน – 9 เดือน (ก่อนเกิด) รับ 10,000 บาท/เดือน เงินสงเคราะห์บุตรตั้งแต่แรกเกิด-6 ปี รับเดือนละ 3,000 บาท นอกจากนี้ยังมีนโยบายเพื่อเกษตรกรในโครงการ “มีเราไม่มีแล้ง” โดยสร้างอ่างเก็บน้ำถาวรที่สามารถใช้น้ำเพื่อการเกษตรได้คลอดทั้งปี และการบริหารจัดการที่ดิน โดยเปลี่ยนที่ดินสปก.สำหรับผู้ถือที่ดินสปก.ไม่เกิน 50 ไร่ ให้เป็นโฉนด

***นายศรัณย์พัส เปิดเผยกับทีมข่าวเชียงรายทูเดย์ว่า คนส่วนใหญ่รู้จักตนในนามของผู้จัดการประกวดนางงาม การที่ตนตัดสินใจมาทำการเมืองโดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคพลังประชารัฐ เพราะตนเองอยากทำงานเพื่อพัฒนาจังหวัดเชียงรายตามอุดมการณ์ความคิดของตน และที่เลือกพรรคพลังประชารัฐเพราะเห็นว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นนักการเมืองผู้ใหญ่คนส่วนใหญ่ทุกพรรคและทุกคนให้ความเคารพนับถือ และนโยบายของพรรคที่สร้างสวัสดิการสังคมให้แก่ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเช่น โครงการบัตรประชารัฐ เป็นต้น รวมทั้งนโยบายอื่นๆที่สามารถทำได้จริง ที่สำคัญคือ นโยบายคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนเรื่องการถือครองที่ดินทำกินที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินได้ การที่ตนมาทำการเมืองมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาจังหวัดเชียงรายให้เป็นเมืองหลักใน 3 ด้าน ได้แก่ 1)เป็นเมืองหลักทางเศรษฐกิจ การลงทุน การเดินทางและการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ 2) เป็นเมืองหลักทางการท่องเที่ยว วางนโยบายเชียงรายเที่ยวได้ทุกเดือน ดึงงานอีเว้นใหญ่ระดับประเทศและระดับนานาชาติมาลงที่จังหวัดเชียงราย ให้เชียงรายเป็น MICE City 3) เป็นเมืองหลักด้านการเกษตร ศูนย์กลางการค้าการเกษตรทั้งในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค

***สำหรับปัญหาที่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างมากในเวลานี้คือ ปัญหาภาวะหมอกควัน PM2.5 สิ่งที่สามารถกำจัดได้ภายในในเวลานี้คือการจำกัดการเผาภายในประเทศ ที่ไม่สามารถกำจัดคือหมอกควันที่มาจากการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนได้เสนอแนวทางไปทางพรรคแล้ว ถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลจะให้ผู้นำพรรคซึ่งจะเป็นผู้นำรัฐบาลได้เปิดเจรจาหาแนวทางร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหา ประชาชนสามารถส่งแนวทางแก้ปัญหาเข้าได้ที่เพจ อ.เล็ก ศรัณย์พัส ในการนำแนวทางแก้ปัญหาจากประชาชนเข้าหารือแนวทางขับเคลื่อนการแก้ปัญหาโดยพรรคพลังประชารัฐถ้าได้เป็นรัฐบาล

***นายศรัณย์พัส กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ว่าเขต1 เชียงราย จะมีการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้น เป็นเขตที่ถือว่าหินสุดในการชิงชัยการเลือกตั้ง แต่ด้วยตนเองเป็นคนในพื้นที่ เข้าใจปัญหาในพื้นที่ดีพอ ซึ่งตนมั่นใจว่าจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาและพัฒนาในพื้นที่ได้ ขจัดช่องว่างระหว่างชนชั้น ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ตนเองถือว่าเป็นสายเลือดใหม่ในวงการเมือง ด้วยประสบการณ์ที่มีและความตั้งจริงของตน ก็หวังว่าตนจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ เป็นทางเลือกใหม่ที่ประชาชนน่าจะเปิดใจให้โอกาสตนมาทำงานเพื่อพัฒนาจังหวัดได้

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์