22 พฤศจิกายน 2024

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

กกท.จัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจกีฬามวยไทยให้คนรุ่นใหม่ จัดการแข่งขันไหว้ครู-คีตะลีลา-นาฏมวยไทย 5 ภูมิภาคทั่วไทย

***เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 ก.ค.2566 ที่ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เปิดกิจกรรมการส่งเสริมและเผยแพร่มวยไทยในชุมชนท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ ด้านกีฬามวยไทยสำหรับคนรุ่นใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในรายการ มวยไทยมหาราชัน มรดกวัฒนธรรมมวยไทยสู่สากล เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่คนรุ่นใหม่ในกีฬามวยไทยที่เป็นอัตลักษณ์ของชาติให้มีความยั่งยืน ให้มวยไทยเป็นมาดกทางวัฒนธรรมของชาติ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทางด้านกีฬาและการท่องเที่ยว สร้างทัศนคติที่แก่คนในชุมชนท้องถิ่น เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมมวยไทย ด้านการไหว้ครู ร่ายรำมวยไทย คีตะมวยไทย และนาฏมวยไทย พัฒนามวยไทยให้เป็นที่รู้จักแก่เยาวชนและผู้สนใจ โดยกำหนดให้มีการอบรมและแข่งขันออกเป็น 5 ภูมิภาค ได้แก่ สนามที่1 ภาคเหนือ วันที่ 16 ก.ค.2566 ที่ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จังหวัดเชียงราย จำนวน 24 ทีม สนามที่ 2 ภาคใต้และภาคตะวันตก วันที่ 23 ก.ค.2566 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สนามที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 19 ส.ค. 2566 ที่จังหวัดนครราชสีมา สนามที่ 4 ภาคกลางและภาคตะวันออก วันที่ 12 ก.ย.2566 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสนามรอบชิงชนะเลิศทั่วประเทศ วันที่ 28 ก.ย.2566 ที่กรุงเทพมหานคร  

***นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ประธานในพิธี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมและเผยแพร่มวยไทยในชุมชนท้องถิ่นผ่านกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬามวยไทย สำหรับคนรุ่นใหม่ ในครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ที่กำหนด โดยมีนโยบายกำกับดูแล ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์ เผยแพร่ และพัฒนา กีฬามวยไทยเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติที่มั่นคง และยั่งยืนตามเจตนารมณ์ของกฎหมายพระราชบัญญัติกีฬามวย ปี 2542 รวมทั้งนโยบายของภาครัฐบาลที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้มวยไทย เป็นกีฬาประจำชาติ สามารถสร้างมูลทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ทั้งในรูปแบบการแข่งขันมวยไทยอาชีพ และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ที่มีจุดขายด้านศิลปวัฒนธรรมกีฬามวยไทยควบคู่กันไปด้วย โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรม และมวยไทยในฐานะที่เป็นกีฬา (Sport) ผ่านการแข่งขันที่มีรูปแบบ กฎกติกาการแข่งขันกำกับ ดังนั้น การสร้างอัตลักษณ์แบรนด์มวยไทย ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริม พัฒนากีฬามวยไทย สู่นานาชาติ จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารคุณลักษณะและภาพลักษณ์ที่งดงามของมวยไทย ให้เกิดการยอมรับเป็น “อัตลักษณ์” ของประชาชนชาวไทย เพื่อสื่อสารถึงวัฒนธรรม ค่านิยม และสื่อสารผ่านนโยบายสู่ชาวต่างชาติ ตามแนวทางการขับเคลื่อนแบบอำนาจอ่อน (Soft power) อีกทั้งยังมีการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมมวยไทย และได้ให้ความสำคัญกับโครงสร้างการแข่งขันกีฬาของประเทศที่มีกิจกรรมครอบคลุมประชาชน เยาวชนทุกกลุ่มวัย และส่งเสริม สนับสนุนให้มีกิจกรรมการแข่งขันกีฬามวยไทย ในรูปแบบการประกวดไหว้ครูนาฎยุทธ์และคีตะมวยไทย ระดับประเทศ และนานาชาติหลายรายการ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิมาโดยตลอด นับเป็นโอกาสอันดีที่โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกระแสความนิยมในกีฬามวยไทยอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน และเยาวชน ทุกเพศ ทุกวัย ในการเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติที่มีส่วนส่งเสริมสร้างสุขภาพ พัฒนาอาชีพสร้างงาน สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้ประเทศไทย รวมไปถึงกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจรวมไปถึงกระตุ้นอุตสาหกรรมกีฬามวย นักกีฬามวย และบุคคลากรในวงการมวยทุกภาคส่วน

***นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังได้ให้การส่งเสริม สนับสนุนในการไหว้ครูมวยไทย คีตะและนาฏมวยไทย รวมทั้งการมีส่วนร่วมรับรู้วิวัฒนาการการแข่งขันมวยไทยสำหรับเยาวชนที่จำเป็นจะต้องสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในรูปแบบสากล กิจกรรมเหล่านี้ จะสร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬามวยไทย สำหรับคนรุ่นใหม่ และการสร้างอัตลักษณ์กีฬามวยไทย เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมให้เยาวชนในชุมชนท้องถิ่น หันกลับมามีความสนใจในกีฬามวยไทย ศิลปะมวยไทย มากยิ่งขึ้น ต่อยอดการพัฒนาความสามารถให้สร้างรายได้ให้กับเยาวชน และบุคลากรในวงการกีฬามวยตลอดทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม อาทิ ผู้ปกครอบ ครอบครัว สถาบันการศึกษา ชุมชนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมกีฬามวยไทย พร้อมทั้งซึมซับวัฒนธรรมกีฬามวยไทย เป็นหนึ่งในวิถีชีวิต และคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์แม่ไม้มวยไทย ในฐานะศิลปวัฒนธรรมกีฬาประจำชาติสืบต่อไป นายทนุเกียรติกล่าว

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading