22 พฤศจิกายน 2024

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

นายกเศรษฐาเยือนแม่สาย ชาวบ้าน-กลุ่มชาติพันธ์แห่รับคึกคัก รับหารือแก้ไขปัญหาตราสารการนำเข้า-ส่งออกผลไม้กับจีน แก้ปัญหาเร่งด่วน 4 มิติ ค้าชายแดน-ยาเสพติด-สิทธิที่ดิน-สัญชาติ

นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรี

***เมื่อบ่ายวันที่ 15 ก.ย.2566 ที่สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ชายแดนไทย-เมียนมา ด่านพรมแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อทด้วยนายอนุทิน ชาญวีระกุล รมว.กระทรวงมหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์-ทั่วไปและสถานการณ์การค้าชายแดน และปัญหาด้านต่างๆของจังหวัดเชียงราย โดยมีนายศรัญยู มีทองคำ รองผวจ.เชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมนำเสนอปัญหาและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยนายเศรษฐาได้เดินพบปะกับเจ้าหน้าที่และชาวบ้านรวมทั้งกลุ่มชนชาติพันธ์ต่างๆที่มารอให้การต้อนรับ ก่อนเข้าร่วมประชุมรับฟังปัญหาและดารบรรยายสรุป ชาวชาติพันธุ์บางส่วนได้ยื่นหนังสือขอให้มีพิจารณาเรื่องสัญชาติ ชาวคะฉิ่นจากบ้านป่ายาง ต.แม่สาย ได้มอบดาบเงินให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่ผู้ปกครองที่ดูแลประชาชน มีส.ส.พรรคเพื่อไทยจังหวัดเชียงรายร่วมให้การต้อนรับ ได้แก่ ดร.พิเชษ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 3 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายอิทธิเดช แก้วหลวง และชาวบ้านกลุ่มสมาพันธ์คนเสื้อแดง นำโดยนายสมควร สุตะวงศ์

นายศรัญยู มีทองคำ
รองผวจ.เชียงราย

ดร.อนุรัตน์ อินทร
ที่ปรึกษา หอการค้าจังหวัดเชียงราย
น.ส.ประกายมาศ เวียร์รา
ประธานหอการค้า อำเภอแม่สาย

***นายอนุรัตน์ อินทร ที่ปรึกษาหอการค้า จ.เชียงราย ได้นำเสนอว่าการค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปีโดยปี 2565 เพิ่มขึ้น 30% โดยมีมูลค่การค้ารวมกว่า 97,000 ล้านบาทกับประเทศจีน เมียนมา และ สปป.ลาว แต่ปัจจุบันประสบปัญหาการค้าทางเรือแม่น้ำโขงเพราะท่าเรือกวนเหล่ยซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนยังไม่มีพิธีสารเพื่อรับสินค้าประเภทผลไม้จากท่าเรือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงขอให้รีฐบาลและกรมวิชาการเกษตรช่วยผลักดันเพื่อให้อนาคตการส่งออกผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด ฯลฯ สามารถส่งไปยังประเทศจีนได้ทางเรือซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าในปัจจุบันที่ต้องขนส่งทางบกผ่านประเทศเมียนมาและ สปป.ลาว

***นอกจากนี้เสนอให้ตั้งตลาดพืชผักที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว เพื่อแก้ปัญหาพืชผักจากจีนส่งตรงไปยังตลาดไทย จ.ปทุมธานี แล้วค่อยกระจายไปยังตลาดย่อยในประเทศ ซึ่งที่เชียงของกำลังมีรถไฟเชื่อมไปถึงและใน สปป.ลาว ยังมีการสร้างถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมไปถึงจีนซึ่งจะใช้ระยะทางเพียง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 90 นาที จากเดิมที่ใช้ถนนอาร์สามเอซึ่งไกลประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางร่วม 6-8 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเสนอให้ผลักดันโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน เชื่อมกับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพราะฝั่งลาวมีเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่กำลังมีเศรษฐกิจเติบโต ทั้งนี้หอการค้า จ.เชียงราย ยังเสนอให้มีการออกวีซ่า ออน อารายวัล เมื่อมาถึงให้กับชาวเมียนมา สร้างถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมเชียงราย-เชียงใหม่ และแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยลดการปลูกข้าวโพดและส่งเสริมปลูกกาแฟรวมทั้งประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดการเผาด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับปากจะนำข้อเสนอทั้งหมดไปพิจารณาโดยระบุว่า จ.เชียงราย เป็นจุดยุทธศาสร์การค้าที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยมีทั้งการค้าชายแดนที่สามารถเติบโตขึ้นได้อีก การท่องเที่ยว การเกษตร ฯลฯ จึงทำให้ตนเดินทางไปเยือนเป็นแห่งแรกๆ นับตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี กระนั้นข้อเสนอบางอย่างก็ต้องนำไปพิจารณาก่อนและการพัฒนาก็ไม่ได้มุ่งไปที่ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียวแต่ต้องพิจารณาเรื่องสังคมความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย

***นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาหลักเร่งด่วยที่สำคัญของจังหวัดเชียงรายที่ต้องเร่งดำเนินการมีอยู่ 4 ด้าน คือ ปัญหาเรื่องการค้าชายแดน การสร้างด่านศุลกากร ปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มีพื้นที่ใกล้แหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งปัญหามลพิษจากการเผาด้วย ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่ชาวบ้านทำกินมานานแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และปัญหาเรื่องการให้สัญชาติกับกลุ่มชนชาติพันธ์ ที่เกิด เติบโต อยุ๋ในประเทศมายาวนาน แต่ไม่มีสัญชาติ ทำให้เกิดปัญหาในสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ

***นายเศรษฐา กล่าวว่าเนื่องจากงบประมาณมีจำกัดดังนั้นคงจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้งหมดไม่ได้  เช่น มอเตอร์เวย์เชียงราย-เชียงใหม่ เพราะมีถนนสายเดิมอยู่แล้วและทางภาครัฐและเอกชนควรนำไปหารือกันอีกครั้ง ส่วนกรณีวีซ่าออนอะไรวัลก็มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงไม่เฉพาะของประเทศไทยแต่เกี่ยวข้องกับประเทศเมียนมาด้วยจึงต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี ดังนั้นการส่งเสริมการค้าชายแดนรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทราบว่ามีมิติใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น สินค้าอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์เป็นที่นิยมของตลาดประเทศเพื่อนบ้านโดยที่แม่สายขายดีรองจากกรุงเทพฯ เลยทีเดียว ส่วนข้อเสนอเกี่ยวกับประเทศจีนนั้นทางคณะรัฐบาลจะเดินทางไปยังประเทศจีนในวันที่ 7-9 ต.ค.2566 นี้ ซึ่งก็จะได้ผลักดันให้มีหน่วยงานระดับมณฑลของจีนเข้าร่วมเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวต่อไป

ขอบคุณภาพ/ข่าวจาก สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading