21 พฤศจิกายน 2024

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

เชียงรายรุกจับร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าให้เด็กและเยาวชน ขายโจ๋งครึ่มผ่านออนไลน์-ไรเดอร์ต่อหน้าจนท.เข้าจับ

***เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 7 พ.ค.2567) เวลา 15.10 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย มอบนโยบายการป้องกันและปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เด็กและเยาวชนอย่างเข้มงวดแก่ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผวจ.เชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย รวมทั้งผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ออกปราบปรามร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ ให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

***สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2567 ชุดจัดระเบียบสังคมได้เข้าทำการจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าชื้อร้าน VMC HUB Chiangrai ตั้งอยู่ที่ 34/5 หมู่ 11 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย และได้นำส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ชุดจัดระเบียบสังคมฯ ได้รับข้อมูลจากผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนมาเป็นจำนวนมากว่าร้านดังกล่าวกลับมาเปิดให้บริการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอีกครั้งหลังจากถูกจับกุมไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเน้นจากส่งของผ่านทางไรเดอร์ แต่ก็ยังคงเปิดหน้าร้านเป็นบางครั้ง ซึ่งพฤติกรรมยังคงพบมีการจำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงลูกค้าทั่วไปเหมือนเดิม

***เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าวพบว่าทางร้านมีการติดฟิล์มสีขาวขุ่นอำพรางไม่ให้มีการมองเห็นจากข้างนอกเข้าไปเห็นในบริเวณด้านใน และมีกล้องวงจรปิดรอบทิศทางเพื่อดูสถานการณ์จากภายนอก แต่ผู้ซื้อจะรู้กันภายในกลุ่มไลน์ เฟสบุ๊ค หรือสื่อสังคมต่างๆ ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบร้าน VMC HUB Chiangrai พบผู้ต้องหา 3 คนแสดงตัวเป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นบุคคลเดิมที่เคยถูกจับกุมมาแล้ว

***ซึ่งในระหว่างการตรวจสอบภายในร้านอยู่นั้น ได้มีบริษัทขนส่งเอกชนนำบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์มาส่งอีก 2 กล่องใหญ่ ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ ยังพบลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางระบบออนไลน์ มีคำนำหน้านามว่า เด็กหญิง เด็กชายอีกจำนวนมาก  

***จากการตรวจสอบภายในร้านพบบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ น้ำยา และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสินค้าที่ตรวจยึดได้จำแนกเป็น 1. เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 10 เครื่อง 2. หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 247 ชิ้น 3. บุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง จำนวน 497 ชิ้น 4. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 40 ชิ้น 5. คอร์ยบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 31 ชิ้น มูลค่าหลายแสนบาท

***จากการตรวจสอบการรับจ่ายเงินหรือเงินหมุนเวียนภายในร้าน พบแต่ละร้านมีรายได้ต่อวันตั้งแต่วันละ 40,000 – 100,000 บาท จากการสอบถามผู้ดูแลพบว่าเจ้าของร้านที่แท้จริงจะติดต่อผ่านทางไลน์และส่งของมาให้ขายจึงไม่ทราบราคาต้นทุนต่อชิ้น และการขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์มีราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักพันบาท และระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบยังมีลูกค้ามาใช้บริการอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ดูแลทั้ง 3 รายส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา  1) ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ 2) ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

***เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมจะได้ดำเนินการปราบปรามร้านที่เปิดทั้งหน้าร้านและขายออนไลน์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อย่างเข้มงวดต่อไป

ขอบคุณภาพข่าวจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading