นายกรัฐมนตรี รับฟังปัญหากลุ่มชาติพันธุ์เชียงราย เน้นย้ำให้ข้าราชการดูแลกลุ่มชาติพันธ์ให้เท่าเทียม กำชับใช้เวลาพิสูจน์สัญชาติจาก 180 วันเหลือ 5 วัน
***เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย สวมเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยนที่ชาวบ้านมอบให้ พร้อมรับฟังปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ คาด ร่างพ.ร.บ.ชาติพันธุ์จบเดือนนี้ ใช้เวลาพิสูจน์สัญชาติจาก 180 วัน เหลือ 5 วัน ลั่น จนท.รัฐต้องดูแลเท่าเทียมเสมอภาค
***นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ และน.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย ลงพื้นที่ บ้านโป่งป่าแขม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยทันทีที่มาถึงตัวแทนชนเผ่าได้มอบเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยน หรือ เย้า ให้กับนายกฯ ซึ่งนายกฯได้สวมเสื้อดังกล่าวทันที จากนั้น ผู้นำชุมชนได้ต้อนรับตามประเพณีของชนเผ่า พร้อมเชิญนายกฯ และคณะ เข้าบ้านเพื่อจิบชาต้อนรับตามประเพณี ซึ่งอาหารที่ต้อนรับประกอบด้วยข้าวปุกงาหรือโมจิดอยซึ่งถือเป็นขนมจากสวรรค์ โดยผู้นำชุมชนหรือพ่อหลวง กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อชาวชุมชนชนเผ่าซึ่งหมู่บ้านนี้อยู่มา 70 ปี เพิ่งมีผู้นำมาเยี่ยมถึงหมู่บ้านครั้งนี้ และขออวยพรให้เป็นนายกฯไปนานๆ อยู่กับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ไปนานๆ และขอให้เดินทางปลอดภัยโดยสวัสดิภาพ ขณะที่นายกฯ ระบุว่า เป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับ โดยบอกว่ามาในฐานะคนไทยไม่ได้มาในฐานะนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้พร้อมรับฟังปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ไข
***ต่อจากนั้น นายกฯ ได้พบปะแลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่ โดยผู้นำชุมชนได้สะท้อนถึงปัญหาว่าชนเผ่าชาติพันธุ์ในพื้นที่ 77,729 ราย มี 19,432 ราย ไม่มีสัญชาติทำให้ถูกจำกัดสิทธิ์ ขณะที่เรื่องของสาธารณูปโภคพบว่าบางหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนระบบสาธารณสุข ในส่วนของโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อยากให้มีการเพิ่มบุคลากรโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง เพราะไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชน
***นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับชาวบ้านว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน ซึ่งได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ได้เข้าบ้านของผู้นำชุมชน ประเพณีไทยถือว่าการต้อนรับให้เข้ามาอยู่ในบ้านถือเป็นเกียรติสูงสุด และถือว่าเราเป็นพวกเดียวกัน สำหรับปัญหาหลักเรื่องความไม่เสมอภาคเท่าเทียมที่พี่น้องชาติพันธุ์ถูกดูแลอย่างไม่ทั่วถึงมาโดยตลอด แต่ภายใต้การผลักดันของสส.ปิยะรัฐชย์ ที่มีความมุ่งมั่นในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ชาติพันธุ์ที่ให้ความสำคัญเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานเรื่องของสัญชาติ เพราะหากได้สัญชาติแล้วก็จะได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข การศึกษา และเรื่องต่างๆ ซึ่งรัฐบาลสัญญาว่าจะให้การพิสูจน์ทราบสัญชาติให้จบภายใน 5 วัน ไม่ใช่ 180 วัน แต่ขอเวลาอีกสักระยะและคาดว่าจะพิจารณาจบได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
***นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนโรงพยาบาลที่ไม่เพียงพอ แน่นอนว่าทุกที่ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือภาคใต้หรืออีสาน โรงพยาบาลก็ไม่พออยู่แล้ว รัฐบาลพยายามจัดสรรงบประมาณดูแลให้ทั่วถึง ส่วนเรื่องของไฟฟ้าสามารถยืนยันได้เลยว่าจะจัดการให้ เพราะถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนพึงจะได้รับ เรื่องของการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเกษตรเป็นเรื่องปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ทั้งจากการบริโภคและการค้าขาย วันนี้มีหน่วยงานราชการมาเยอะก็ขอฝากให้ดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ให้มีความเสมอภาค และเท่าเทียมกับพี่น้องคนไทยทุกคน ขอย้ำว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และคิดว่าคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะได้มา หวังว่าในระยะเวลาอันสมควรจะได้กลับมาอีกเพื่อมาดูความก้าวหน้า แต่ตอนนี้ให้พี่น้องข้าราชการปฏิบัติงานกันไปก่อน และหวังว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเหมือนที่เคยมา
***จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปรับฟังปัญหาในพื้นที่อำเภอแม่จัน และพบปะประชาชน ณ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมเน้นย้ำให้ดูแลกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเท่าเทียม
ขอบคุณข้อมูลข่าว/ภาพจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์