“นภินทร” รมช.พาณิชย์ ปล่อยคาราวานการรับซื้อสับปะรดเชียงราย รณรงค์คนไทยกินผลไม้ไทยอร่อยสุดในโลก ดันราคาผลไม้รองสูงขึ้น
***เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ก.ค.2567 ที่สหกรณ์การเกษตรแม่ยาว จำกัด ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานพิธีปล่อยคาราวานการรับซื้อสับปะรด@เชียงราย ภายใต้โครงการรณรงค์บริโภคผลไม้ ตามนโยบายการขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้และพืชเศรษฐกิจตัวรอง ปี 2567 โดยได้นำผู้ประกอบการ 9 ราย ที่เข้าร่วมโครงการมารวมปล่อยคาราวานสับปะรดในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต ช่วยดูแลเกษตรกรให้สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่ดีตลอดฤดูกาล ในช่วงที่ผลผลิตออกมาสู่ตลาดจำนวนมากระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน มีนางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ร่วมพิธีปล่อยขบวนคาราวาน
***นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า จากการบริหารจัดการของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ที่ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการผลผลิตแลประสานผู้รับซื้อเข้ามารับซื้อผ่านกลุ่มเกษตรกรตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาสับปะรดเชียงรายอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 15 บาท เป็นที่พึ่งพอใจสำหรับเกษตรกร โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ชื่นชมมาตรการบริหารจัดการสับปะรดเชียงรายว่าได้ผลดีเป็นที่พึงพอใจต่อทุกภาคส่วน พร้อมเป็นโมเดลต้นแบบในการบริหารจัดการสินค้าเกษตรประเภทอื่นต่อไป พร้อมสั่งการให้กรมการค้าภายใน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งวางมาตรการบริหารจัดการรองรับผลผลิตในฤดูกาลถัดไปด้วย
***นายนภินทร กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จตามนโยบายการขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้และพืชเศรษฐกิจตัวรอง ปี 2567 ที่สามารถดูแลการค้าและตลาดปลายทาง ทำให้ราคาผลผลิตสับปะรดอยู่ในเกณฑ์ดี จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนช่วยกันบริโภคสับปะรดจากเกษตรกรของไทย และสนับสนุนเกษตรกรให้มีกำลังใจในการพัฒนาคุณภาพของผลผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงการส่งเสริมและส่งออกผลผลิตไปขายในต่างประเทศ เพื่อทำรายได้เข้าประเทศต่อไป ในขณะเดียวกันก็จะสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ในการทำตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ โดยร่วมมือกับไปรษณีย์ในการจัดส่งสินค้าให้กับเกษตรกร และกรมยังได้ช่วยเหลือโดยการแจกกล่องขนาดบรรจุ 10 กิโลกรัม ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ เพิ่มเป็น 80,000 กล่อง จากปีที่แล้ว 30,000 กล่อง ซึ่งจะทำให้เกษตรกร มีโอกาสทำตลาดเพิ่มมากขึ้น
***สำหรับพืชเกษตรรองลำดับถัดไปเป็น ลำไย ซึ่งมีโอกาสดีในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ซึ่งปัจจุบันได้ยกเลิกกีดกันลำไยจากประเทศไทยแล้ว และขอรณรงค์ให้คนไทยบริโภคผลไม้ของไทย เพราะผลไม้ไทยไม่แพ้ที่ใดในโลก มีกลิ่นรสหอมหวานเป็นตามธรรมชาติ ขอให้เกษตรกรชาวไทยรักษามาตรฐานการผลิตให้ได้มาตรฐานสากล ปลอดสารเคมี จะทำให้ผลไม้ไทยเป็นที่นิยมและมั่นใจจากตลาดโลกได้อย่างแน่นอน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทางด้านการตลาดผลิตผลการเกษตรของเกษตรกรไทยเป็นอย่างดี
///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์