8 กันยายน 2024

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

ภาคธุรกิจถวายระฆัง-รอยพระพุทธบาทหินเขียว “หลวงพี่เอก” สำนักสงฆ์บุญพาเจริญ เชียงแสน บอกบุญบูรณะศาลาพระธาตุ 100 ปี พายุถล่ม ปัจจัยอาหารหมาแมวที่มีคนมาปล่อยหลายสิบตัว

1 min read
พระเมธวัจน์ พุทธิโก
เจ้าสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง)

***เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 พ.ค.2567 ที่ศาลาปฏิบัติธรรม สำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) บ้านไร่ ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายสฎากรณ์ ดังวัธนาวณิชย์ ผู้บริหาร บริษัท​ อิมพีเทรด​ จำกัด และบริษัทในเครือ ได้แก่ IKKอะไหล่แอร์ ผลิตภัณฑ์มิสเตอร์​ เจ๊ท​ คลู คอมฯตราหมีชูหัวแม่มือ DiNAMIC​ ไดนามิก KEMIC​ (คีมิก) EDEN​ (อีเดน) พร้อมครอบครัว ได้แก่ คุณแม่บุญมี ดังวัธนาวณิชย์ คุณสฎากรณ์ ดังวัธนาวณิชย์ คุณสายใจ​ เงินมาก คุณลัญจน์ฌญา ดังวัธนาวณิชย์ คุณณัฐพล ดังวัธนาวณิชย์ คุณณิชา​ ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ คุณอดิศร ทัศนเสถียร คุณแม่ประยูร เงินมาก คุณศิวิลัย​ ธัมมะ คุณจันทรา เงินมาก คุณศิริวลี​ ธัมมะ คุณเขมรุจิ ไวศยกูลกิจ ร่วมกันถวายระฆังแก่ พระเมธวัจน์ พุทธิโก เจ้าสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) โดยมีนายณัทพงศ์ ทัศนเสถียร บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์รวมพลังเชียงราย เป็นผู้แทนนำถวาย ในโอกาสเดียวกัน สล่าองอาจ อินต๊ะวงค์ ประธานชมรมเปตอง เชียงแสน เชียงของ เวียงชัย ช่างแกะสลักหิน ชาวอำเภอเชียงของ ผู้แกะสลักรอยพระพุทธบาทหินเขียว พร้อมสมาชิกเปตอง 3 อำเภอ ร่วมถวายรอยพระพุทธบาทหินเขียวแก่พระเมธวัจน์ พุทธิโก เจ้าสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) ด้วย

***ในการนี้ พระเมธวัจน์ พุทธิโก เจ้าสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) ได้อนุโมทนาบุญแก่คณะผู้นำถวายพระพุทธบาตรสลักหินเขียว และระฆัง พระสงฆ์ 10 รูป นำโดยพระอธิการสุขคำ สุขจิโต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ สวดเจริญพระพุทธมนต์ สวดบังสุกุลให้ผู้ล่วงลับตามประสงค์ของเจ้าภาพ สวดอนุโมทนา หลังจากนั้นคณะทั้งนั้นได้ทำพิธีถวายพระพุทธบาทหินเขียวและระฆังที่ลานประดิษฐานแด่ พระเมธวัจน์ พุทธิโก เจ้าสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) เป็นอันเสร็จพิธี

***พระเมธวัจน์ พุทธิโก อายุ 54 ปี เจ้าสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) กล่าวว่า  สำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (พระธาตุม่อนต้นต้อง)ตั้งอยู่ระหว่าง บ้านไม่ หมู่ 7 ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เดิมซาวบ้านเรียกกันว่า พระธาตุม่อนต้นต้องซึ่งบริเวณโดยรอบสำนักสงฆ์เป็นสถานที่เก่าแก่มีต้นต้องขึ้นอยู่จำนวนมาก จึงเรียกบริเวณนี้ว่า “ม่อนต้นต้อง” มีปูชนียสถานสำคัญตั้งอยู่บนยอดเนินดอย เป็นพระองค์พระธาตุเก่าแก่มีอายุกว่า 200 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2508-2566 หลวงพ่อชุมได้ขนดินองค์พระธาตุและจำพรรษาอยู่ที่แห่งนี้ หลังจากท่านมรณภาพลงแล้วต่อมาในปีพ.ศ.2535 พระอาจารย์สมบูรณ์ ได้ขึ้นมาปฏิบัติบัติธรรม แล้วท่านก็กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิด ต่อมาพระอาธารย์สุขคำ สุจิตโต ได้มาจำพรรษาอยู่หลายปีแล้วย้ายลงไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล บ้านไร่ หมู่ 7 จึงไม่มีพระจำพรรษาอยู่ทำให้ทรุดโทรมรมลง จนต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2540 พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะอำเภอเชียงแสน เป็นสะพานบุญแนะนำให้คุณโยมปราณี-คุณโยมศักดิ์ชัย วิริยะอาภา พร้อมด้วยคณะบุญภาเจริญได้มาทำการบูรณะองค์พระธาตุใหม่ จนได้บรรจุพระพุทธรูป และได้ยกฉัตรพระธาตุในปีพ.ศ. 2542 หลังจากนั้นก็มีพระสงฆ์มาจำพรรษาอยู่อีกหลายรูป แต่ก็อยู่ไม่นานก็ปล่อยให้รกร้างทรุดโทรมลงอีก ต่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2558 พระเมธวัจน์ พุทธิโก ได้มาจำพรรษาอยู่ และได้บูรณะปฏิสังขร พระธาตุ พระวิหาร และเสนาสนะต่างๆที่ชำรุดทรุดโทรม และได้จำพรรษาอยู่จนมาถึงปัจจุบัน

***พระเมธวัจน์ พุทธิโก กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) ได้ดำเนินการเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นวัดกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการอยู่ ส่วนสถานที่ตั้งของสำนักสงฆ์บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) เป็นผืนป่าเนินดอย ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ มีเพียงโรงเรือนหลังคาเมททัลชีล โครงเหล็ก ก่ออิฐบล็อก คลุมด้วยสแลน มีพระจำพรรษาอยู่เพียงองค์เดียวคือตนเอง มีชาวบ้านมาช่วยดูแลช่วยเหลืออยู่ 2-3 คน มีโยมอุปัฏฐาก มาช่วยบริจาคปัจจัยในการพัฒนาพื้นที่ และมอบของจำเป็นใช้ในทางพุทธศาสนา มอบที่ดินด้านล่างม่อนดอยให้ตนดูแล ซึ่งตนเองก็ได้นำมาพัฒนาเป็นสนามฟุตบอล สนามวอลเลย์บอล สนามเปตอง ในส่วนของแหล่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าวได้นำมาพัฒนาเป็นสถานที่แข่งเรือพาย มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรมกีฬาต่างๆ และประชาชนในพื้นที่มาใช้พื้นที่เพื่อการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย โดยเฉพาะเยาวชนมีโครงการกีฬาต้านยาเสพติด ที่มีการแข่งขันฟุตบอลทุกเดือน และการแข่งขันเปตองในภาคประชาชนจากชมรมเปตองอำเภอต่างๆด้วย

สล่าองอาจ อินต๊ะวงค์

***ในส่วนพื้นที่ทางขึ้นเนินดอยได้ทำกรงเลี้ยงสุนัขและแมวที่มีคนเอามาปล่อยทิ้งไว้ เป็นภาระให้พระต้องมาเลี้ยงดูสัตว์ที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งแถวนี้ มีจำรวนหลายสิบตัว ขาดแคลนปัจจัยในการจัดการอาหารให้สุนัขกับแมว ได้บอกบุญไปก็มีคนรักสัตว์และมูลนิธิสัตว์เข้ามาช่วยเหลือพอสมควรแต่ก็ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ขอบอกบุญไปยังศาสนิกชนผู้มีศรัทธา ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ปัจจัยเพื่อซ่อมแซมบูรณะปฏิสังขร ศาลาบนสถานที่ตั้งพระธาตุที่พังทลายลงเนื่องจากพายุฝนลมแรงที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้หลังคาปลิวหลุดและพังทลายลงมา  พระเมธวัจน์ พุทธิโก กล่าว

***สล่าองอาจ อินต๊ะวงค์ กล่าวว่า รอยพระพุทธบาทขนาด ยาว.2.5 เมตร กว้าง 1.7เมตร ทำมาจากหินสีเขียวก้อนใหญ่หนัก 1 ตันเศษ ตนเองเป็นผู้แกะสลัก ใช้เวลา 3 เดือนจึงแล้วเสร็จ นำมาถวายให้แก่ “หลวงพี่เอก” พระเมธวัจน์ พุทธิโก เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ สำนักสงฆ์ บุญพาเจริญ (ม่อนต้นต้อง) เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะ ปฎิบัติธรรม

***ผู้ประสงค์ถวายปัจจัยเพื่อการซ่อมแซมบูรณะหลังคาศาลาบนม่อนพระธาตุ สร้างห้องน้ำ ปรับปรุงสนามกีฬาต่างๆ บริจาคปัจจัยสำหรับอาหารสุนัขและแมว ปัจจัยจัดหาเสนาสนะจำเป็นต่างๆ สามารถโอนเงินเข้าบัญชี พระเมธวัจน์ ยศศิริญาณภัทร์ ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 035-3-65767-4 หรือที่โทร. 093-152-1652 , 092-483-5340

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading