ผู้ว่าฯเชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าป้องกันเด็กเยาวชนยุ่งเกี่ยวอบายมุข
***เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย นายรณรงค์ พงษ์สวัสดิ์ ผู้บังคับกองร้อยกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 นายธีรัตน์ อิทธิพลาลักษณ์ ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ออกปราบปรามร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ให้แก่เด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ในปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” จัดระเบียบสังคมฯ ป้องกันเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ตามนโยบาย มท.1
***สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบทราบมาว่า ร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชื่อร้าน Mavap Studio อาศัยหอพักนักศึกษาเป็นจุดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่ โดยการซื้อขายใช้วิธีสั่งผ่านแอปพิเคชั่น LINE และใช้วิธีการส่งผ่านไรเดอร์ หรือมารับเองได้ที่บริเวณหน้าห้องพัก ซึ่งร้านดังกล่าวตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนบ้านดู่เมืองใหม่ และใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อันเป็นการมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา และเป็นการมอมเมา เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก
***เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว โดยวิธีล่อซื้อ เพื่อเข้าทำการจับกุมและอีกชุดซุ่มดูพฤติกรรมอยู่บริเวณหอพักที่คาดว่าเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งระหว่างที่ทำการซุ่มดูอยู่ประมาณ 30 นาที ทางร้านมีการออกไปส่งของกว่า 10 ครั้ง และมีไรเดอร์เข้ามารับของอยู่ตลอดเวลา เมื่อทำการตกลงซื้อขายและนัดรับของ โดยแจ้งพิกัดให้มาส่งของบริเวณแยกบ้านดู่เมืองใหม่ โดยผู้ส่งของได้วางของบริเวณหน้าห้องพัก ละมีไรเดอร์ มารับของออกจากหอพัก ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย โดยใช้รถจักรยานยนต์ออกมาส่งของ เมื่อมาถึงจุดนัดรับของเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พร้อมพามาตรวจค้นในบริเวณหอพักซึ่งเป็นอาคารสองชั้น จากการตรวจสอบพบผู้ดูแล จำนวน 2 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน จากการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์จำนวนกว่า 2,000 ชิ้น มูลค่าหลายแสนบาท และยังพบบัญชีซึ่งมีรายได้ต่อวันไม่ต่ำกว่าวันละ 35,000 บาท
***เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ดูแลทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกล่าวโทษเจ้าของบัญชีต่อไป โดยแจ้งข้อหา 1) ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ 2) ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบคุณข้อมูลข่าวภาพจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์