มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิตรุ่นที่ 17
***เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 กพ.2563 ที่หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2561 ทั้งระดับบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต จำนวน 2,571 คน (จากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมด 2,816 เป็นต่างชาติจำนวน 105 คน) จากสำนักวิชานิติศาสตร์, วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง, วิทยาศาสตร์สุขภาพ, พยาบาลศาสตร์, นวัตกรรมสังคม, จีนวิทยา, การแพทย์บูรณาการ, ศิลปศาสตร์, การจัดการ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, อุตสาหกรรมเกษตร และปีนี้เป็นปีแรกที่แพทยศาสตร์มีบัณฑิตเป็นรุ่นแรก จำนวน 32 คน พร้อมก้าวสู่การเป็นแพทย์ทำงานใกล้ชิดชุมชน
***ในการนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ เนื่องจากเป็นผู้มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในการอุทิศตนเพื่อกิจการของพระพุทธศาสนา ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความรู้ มีคุณธรรม และเป็นผู้ทุ่มเทเสียสละในการใช้ความรู้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของสังคมมาโดยตลอด เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในระดับประเทศและนานาประเทศ ด้วยผลงานต่างๆ ที่ได้กระทำมาล้วนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ตลอดจนมีศีลาจารวัตรอันดีงามที่สามารถยึดเป็นแบบอย่างของสังคมได้ พึงได้รับการยกย่องให้เป็นบรรทัดฐานเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นเจริญรอยตาม
***และรองศาสตราจารย์ ดร.วันชัย ศิริชนะ เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาระหว่างประเทศ ด้วยเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการการอุดมศึกษาของประเทศไทยแล้ว และเป็นนักบริหารที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นผู้ที่เสียสละและทุ่มเท ในการพัฒนาการศึกษาของประเทศเข้าสู่การศึกษาในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบุกเบิก ริเริ่ม ก่อตั้งและพัฒนามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ก่อให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกับสถาบันในต่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ด้วยความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของรองศาสตราจารย์ ดร.วันชัย ศิริชนะ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในความรู้ความเชี่ยวชาญในการเป็นนักบริหารการศึกษาระดับสูง และเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการการอุดมศึกษาระดับนานาชาติ ได้ริเริ่มโครงการทางด้านการศึกษาที่เชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาระหว่างประเทศในด้านต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา ด้านการแพทย์ การสาธารณสุขและการส่งเสริมสุขภาพ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและระดับนานาชาติ ด้วยผลงานต่างๆ ที่ได้กระทำมา ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จึงสมควรได้รับการยกย่องเพื่อเป็นเกียรติประวัติและแบบอย่างในวงวิชาการและวิชาชีพให้ผู้อื่นเจริญรอยตาม
***ในโอกาสนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทความว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ
***บัณฑิตทั้งหลายได้ศึกษาเล่าเรียนมาในสาขาวิชาต่าง ๆ ย่อมมีความรู้ความสามารถและทักษะความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน. การรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่า ตนมีความรู้ ความสามารถและความถนัดในด้านใด มากน้อยเพียงใดนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้คนเราสามารถนำศักยภาพที่มีอยู่ ไปใช้ได้ถูกต้องกับงานหรือกิจการต่าง ๆ ที่ทำ เพื่อให้งานนั้นสำเร็จผลเป็นประโยชน์สูงสุดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้รู้จักขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ฝึกฝนความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติ และเพิ่มพูนประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ และความชำนาญจัดเจน ที่ยิ่งสูงขึ้น กว้างขวางขึ้น เป็นประโยชน์ต่องานยิ่ง ๆ ขึ้นไป. การรู้จักตนเองดังที่กล่าว เป็นคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งส่งเสริมให้บุคคลมีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าและผาสุกมั่นคงอย่างเท้จริงได้. บัณฑิตทุกคนจึงควรพิจารณาให้รู้จักตนเองตามเป็นจริง จะได้สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตน แก่สังคม และแก่ประเทศชาติได้สืบไป ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคน และผู้มาร่วมในพิธีนี้ทุกท่าน ประสบความสุขสวัสดี พร้อมทั้งความเจริญรุ่งเรืองโดยทั่วกัน”
***นอกจากนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารวันชัย ศิริชนะ ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ทอดพระเนตรนิทรรศการที่มหาวิทยาลัยเตรียมไว้ในหัวข้อ ‘นิทรรศการตามรอยพระราชดำริ’ โดยมี รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้บริหาร คณาจารย์ ถวายรายงาน นิทรรศการได้อธิบายถึงมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงดำเนินงานด้านบริการวิชาการตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ พ.ศ. 2541 จวบจนปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 ผ่านการดำเนินงานของหน่วยงานทั้งสำนักวิชา ศูนย์ และหน่วยงานสนับสนุน เพื่อนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยถ่ายทอดสู่ชุมชนในด้านต่างๆ เกิดการพัฒนา สร้างความเข้มแข็งและให้ชุมชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ตามรวมพระราชดำริของพระองค์ ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการศึกษา จำนวน 510 โครงการ งบประมาณกว่า 56 ล้านบาท, ด้านการสาธารณสุข จำนวน 377 โครงการ งบประมาณกว่า 72 ล้านบาท, ด้านสิ่งแวดล้อม จำนวน 73 โครงการ งบประมาณกว่า 6.3 ล้านบาท และด้านอาชีพ จำนวน 327 โครงการ งบประมาณกว่า 6 ล้านบาท
***โดยในด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้สูงอายุที่มหาวิทยาลัยได้เข้าไปจัดกิจกรรมกับผู้สูงอายุในชุมชนรอบใกล้มหาวิทยาลัย มีผลให้ผู้สูงอายุคุณภาพชีวิตดีขึ้น พึ่งพาตนเองได้จากการมีอาชีพเสริมมีความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง และยังนำความรู้ไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ ด้านการสาธารณสุข เป็นโครงการวิจัยดำเนินการในอำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอที่มีกลุ่มผู้สูงอายุชาวไทยภูเขาอาศัยอยู่มากที่สุดในจังหวัดเชียงราย ศึกษาพบสถานะสุขภาพของผู้สูงอายุกลุ่มนี้มีข้อจำกัดในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพและการดูแลสุขภาพส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและจิตใจ ทั้งจัดเวทีสาธารณะเพื่อระดมความคิดหาแนวทางแก้ปัญหาและจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ
***ด้านสิ่งแวดล้อม
จากปัญหาหมอกควันขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะเขตภาคเหนือตอนบนและในเขตภูมิภาคใกล้เคียงเนื่องจากไฟป่า
มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยและปฏิบัติการเพื่อลดปัญหาเกิด
ไฟป่าหมอกควันในประเทศไทยและในภูมิภาคขึ้น สร้างความตระหนักถึงปัญหาหมอกควันที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
พร้อมศึกษาแนวทางในการลดการเผาป่าในภาคเหนือตอนบน
ทั้งได้ให้ความรู้เยาวชนและฝึกอบรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียน 11
แห่ง ให้สามารถเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมจำนวน 1,207
คน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์วัดฝุ่นที่พัฒนาขึ้นโดยสำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ไว้ในชุมชนและสถานศึกษาเพื่อสร้างการับรู้ถึงสภาพปัญหา
พร้อมผลิตสื่อแนวทางการป้องกันตัวด้วยภาษาถิ่น
ตลอดจนประสานกับทางกองทัพอากาศในการนำอากาศยานไร้คนขับมาปฏิบัติการประเมินสถานการณ์ไฟป่าในช่วงเผชิญเหตุที่จะถึงนี้
ด้านอาชีพ ได้ร่วมกับหมู่บ้านห้วยหินลาดในพื้นที่เสี่ยงไฟป่า
ได้สร้างอาชีพสร้างรังผึ้งที่
พัฒนาอาหารจากฐานภูมิปัญญาที่ทำจากน้ำผึ้งและส่วนประกอบจากผลผลิตท้องถิ่น
ตลอดจนผลิตลิปบาล์มจากน้ำผึ้งและไขผึ้ง
เป็นสินค้าชุมชนช่วยกองทุนรักษาป่าเพิ่มรายได้เพื่อใช้ทำกิจกรรมในวงกว้างมากขึ้น
พร้อมถวายลิปบาล์มจากน้ำผึ้ง
Cr. ฝ่ายประชาสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์