ผู้ว่าฯเตรียมประกาศมาตรการโรคระบาดจังหวัดเชียงราย 10 ข้อสั่งการนายก + 2 ข้อสั่งการผู้ว่าฯคุมเข้มสถานการณ์ วอนอย่ารังเกลียดผู้ต้องสงสัย ช่วยใส่ใจดูแลกักเก็บตัวเอง

***เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 มี.ค.2563 ที่ห้องธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วยนายภาสกร บุญญลักษม์ รองผวจ.เชียงราย น.พ.ทศเทพ บุญทอง นพ.สสจ.เชียงราย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยว นายอำเภอและผู้แทนอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคระบาดเชียงราย ครั้งที่ 1/2563 เพื่อวางมาตรการในการควบคุมและเฝ้าสังเกตการณ์การแพร่เชื้อโรค Covid-19 และการบังคับใช้กฎหมาย ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี 10 ข้อ ได้แก่ 1) ให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐ ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และหากมีความจำเป็น ให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการกำหนดมาตรการเป็นการภายในต่อไป 2) ให้หน่วยงานราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐ ระงับหรือเลื่อน การเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด 3) ผู้ที่เดินทางกลับ/ผ่าน/แวะประเทศที่มีการระบาดให้กักกันตัวเอง ณ ที่พักอาศัย 14 วัน 4) ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมพิจารณาความต้องการวัสดุ ที่จำเป็นต่อการป้องกันโรค และจัดหาให้เพียงพอ 5) ให้กระทรวงพาณิชย์ ป้องกันและควบคุมการกักตุน ราคา สินค้า วัสดุ ที่จำเป็นต่อการป้องกันโรค

***6) ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีขนส่งผู้โดยสารและท่ารถ อย่างเคร่งครัด 7) ให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมสถานที่/พื้นที่สำหรับสังเกตอาการผู้มีมูลเหตุสงสัยว่าเป็นโรค Covid-19 8)  ให้ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน ติดตามและดูแลคนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ Covid-19 และ ประเทศเฝ้าระวังตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างใกล้ชิด 9) ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข บูรณาการ/เชื่อมโยงข้อมูล เพื่อรองรับการดำเนินการตาม พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 10) ให้ส่วนราชการ/หน่วยงานอื่นของรัฐ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคเอกชน หลีกเลี่ยงหรือเลื่อน การจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก

***นอกจากนี้ผวจ.เชียงรายยังได้สั่งการเพิ่มเติมอีก 2 ข้อ ได้แก่ 11) ให้ ศึกษาธิการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมตรวจสอบ หากมีรายงานผู้ต้องสงสัยในสถานศึกษาและวัด 12)ให้อำเภอ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่านแดนผ่อนปรน และจุดผ่านแดนธรรมชาติ อย่างเคร่งครัด และขอข้อมูลการผ่านเข้าออกทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และเชียงใหม่ ซึ่งข้อสั่งการทั้ง 12 ข้อนี้ มอบให้สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายดำเนินการออกประกาศให้ผวจ.เชียงรายลงนามประกาศใช้ด่วนที่สุด

***นายประจญ กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้เตรียมความพร้อมอย่างดีที่สุด โดยขอใช้สถานที่กักเก็บตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ Covid-19 ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงสำคัญ 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี อิตาลี และอิหร่าน จาก มทบ. 37 , ปภ.15 เชียงราย , ร.พ.สมเด็จพระญาณสังวร ซึ่งตนเชื่อว่าจังหวัดเชียงรายไม่น่ามีผู้ติดเชื้อ และขอวิงวอนประชาชน อย่าได้ตั้งข้อรังเกลียดคนกลุ่มนี้ เพราะคนกลุ่มนี้เปรียบเหมือนญาติพี่น้องของเรา ขอให้ช่วยกันดูแลและให้ความเข้าใจ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ยอมกักเก็บตัวเอง ไม่ไปแพร่เชื้อต่อ

***ด้าน นพ.ทศเทพ กล่าวว่า กรณีผู้ใช้แรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้ หรือที่ถูกเรียกว่า ผีน้อย ต้องได้รับการตรวจคัดกรองจากประเทศเกาหลี เมื่อมาเข้าประเทศไทยก็จะถูกคัดกรองอีกครั้ง เมื่อมาถึงภูมิลำเนาในแต่ละจังหวัด จะต้องกักเก็บตัวเองอยู่ภายในบ้าน 14 วัน ก่อนที่จะดำเนินชีวิตตามปกติ ขอเพื่อนบ้านอย่าตั้งขอรังเกียจ เพราะยังไม่ใช่ผู้ป่วย แค่เก็บตัวเฝ้าดูอาการเท่านั้น
***ด้านการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ต่างๆทั้งของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนขอความร่วมมือเลี่ยงหรือเลื่อนการจัดไปก่อน หากมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ต้องให้ผวจ.เชียงรายวินิจฉัยอนุมัติ สำหรับหน้ากากอนามัยในภาคส่วนของผู้ปฏิบัติหน้าที่ยืนยันว่ามีพอเพียง ในส่วนประชาชนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนการจัดทำหน้ากากผ้าไว้ใช้เอง และยืนยันว่าหน้ากากผ้าสามารถป้องกันการติดเชื้อ covid-19 ได้ มาตรการควบคุมดูแลสถานศึกษา หากพบว่ามีบุคลากร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง มีประวัติเดินทางไปประเทศเสี่ยง ให้กักเก็บตัว 14 วัน หรือดำเนินการอื่นใดให้ประสานกับคณะกรรมการฯจังหวัดก่อน ในขณะนี้มีการบังคับใช้กฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2563 แต่ทางจังหวัดเชียงรายจะใช้วิธีขอความร่วมมือและทำความเข้าใจ ยังไม่นำบทลงโทษมาใช้ ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขความร่วมมือจากประชาชนด้วย

/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์