ชาวบ้านแม่ยาวรวมตัวอนุรักษ์แหล่งน้ำ “แม่น้ำกก” เหตุน้ำแห้ง “มงคลชัย-อ.กนก” ร่วมรับฟังปัญหา ตั้งคณะกรรมการรักษ์น้ำ

***เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 มี.ค.2563 ที่ห้องประชุมอนุสรณ์ 248 เทศบาลตำบลแม่ยาว อ.เมืองเชียงราย นายชัยวัฒน์ มีปราชญ์สม ปลัดอาวุโส อ.เมืองเชียงราย เป็นประธานการประชุมเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อวางแนวทางปฏิบัติในการอนุรักษ์แหล่งน้ำแม่น้ำกกที่ประสบปัญหาน้ำแล้งด้วยการทำโครงการแก้มลิง พร้อมตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนโครงการของกลุ่มรักษ์น้ำ รักษ์ป่า รักเชียงราย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรภาคประชาสังคม และประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก มีนางอาภากร เจริญสิริพร ผู้ประสานงานกลุ่มรักษ์น้ำ รักษ์ป่า รักเชียงราย เป็นผู้กล่าวรายงาน นายไพโรจน์ แอบยิ้ม พนักงานการเกษตรชำนาญงาน ฝ่ายจัดสรรน้ำ โครงการชลประทานเชียงราย เป็นวิทยากรดำเนินการเสวนา ทั้งนี้จะได้มีการผลักดันโครงการให้เป็นโครงการในวาระของจังหวัดเชียงรายต่อไป ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว

***นางอาภากร กล่าวว่า กลุ่มรักษ์น้ำ รักษ์ป่า รักเชียงราย ได้ทำงานจิตอาสาในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องน้ำมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 พบว่าสภาพป่าต้นน้ำและบริเวณริมแม่น้ำกกถูกรุกล้ำทำลายขยายวงมากขึ้น ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำกกตื้นเขินแห้งลงมีตะกอนดินทรายทับถมเป็นจำนวนมาก ไม่มีน้ำจากแม่น้ำสาขาไหลเข้ามาเติม ทำให้เสียสมดุลธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่มีมาตรการจากภาครัฐในการกักเก็บน้ำไว้ก่อนปล่อยให้ไหลลงแม่น้ำโขง ทำให้ช่วงฤดูแล้งแม่น้ำกกประสบปัญหาน้ำแห้งลงทุกปี ดังนั้นภาคประชาชนจังหวัดเชียงรายจึงร่วมลงนามเรียกร้องให้ภาครัฐได้สร้างอ่างกักเก็บน้ำแก้มลิงตามแนวทางศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย ได้รับเรื่องเบื้องต้นไว้แล้ว

***นายกนก วิศวะกุล อดีตประธานชมรมคนรักในหลวง จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า แม้ตนจะไม่ได้เกิดที่เชียงราย แต่ก็อยู่อาศัยที่จังหวัดเชียงรายมากว่า 50 ปี เห็นความมีชีวิตชีวาของแม่น้ำกกมาตั้งแต่อดีตก่อนปีพ.ศ. 2520 แม่น้ำกกมีน้ำมากและไหลเชี่ยวจนได้ฉายาว่า “แม่กกน้ำฮ้าย” ความแรงของการไหลเชี่ยวของแม่น้ำกกได้ทำลายตลิ่งริมน้ำทำให้แม่น้ำกกเปลี่ยนทางเดินของน้ำอยู่ทุกปี ในช่วงเวลาต่อมาเกิดการเผาไม้ทำลายป่า การบุกรุกป่าเพื่อทำการเกษตร และการใช้ประโยชน์จากแม่น้ำกกมากเกินไป ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำกกลดลง ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านต้นน้ำยังได้สร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ใช้ ทำให้พื้นที่ใต้ลำน้ำขาดแคลนน้ำมากขึ้น ภาคประชาชนจึงเห็นว่าต้องมีการบริหารจัดการน้ำให้ถูกต้องเหมาะสม

***นายมงคลชัย ดวงแสงทอง อดีตสว.เชียงราย ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย กล่าวว่า เวทีเสวนาการแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำในแม่น้ำกกที่ลดน้อยลงในวันนี้ของประชาชนในท้องถิ่นเป็นเรื่องที่มีนิมิตหมายที่ดี แต่ยังขาดเจ้าภาพในการขับเคลื่อน ท้องถิ่นยังไม่สามารถจัดการตนเองได้อย่างเต็มที่ ยังมีความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้น้ำกับนักอนุรักษ์ ยังมีความขาดแคลนการบริหารจัดการน้ำอย่างมีระบบ การขับเคลื่อนของภาคประชาชนในวันนี้ต้องขอคารวะในน้ำใจของประชาชนและท้องถิ่นที่มาร่วมใจกัน แต่ปัญหาหลักของประเทศไทยที่ถือเป็นจุดดับคือยังไม่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นอย่างเต็มที่แม้จะมีพรบ.กระจายอำนาจปี 2542 ประกาศใช้แล้ว จึงต้องมีการปฏิรูประบบราชการ โดยต้องนำปัญหาของประชาชนมาเป็นตัวตั้งมากกว่านี้ ต้องตอบสนองตอบโจทย์ตอบปัญหาของประชาชนได้ และต้องมีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยเรื่องการดูแลป่าไม้ การดูแลป่าต้นน้ำ การบริหารจัดการในพื้นที่ต้องห้าม เช่น ป่าสงวน อุทยาน วนอุทยาน เป็นต้น แต่ทุกวันนี้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาเอง

/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์