ผู้ว่าฯเชียงรายยืนยันพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายแรกกักตัวดูอาการแล้ว “หมอไชยเวช” เผยเป็นอาการระดับ 1 ดูแลตามมาตรฐานมีสิทธิหายได้ “ผู้ว่าฯประจญ” ขอบคุณผู้ป่วยแสดงตน วอนสังคมอย่าตั้งข้อรังเกียจ
***เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 มี.ค.2563 ที่ห้องประชุมกาสะลองคำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผวจ.เชียงราย นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และนพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) จังหวัดเชียงราย เป็นการรายงานผลล่าสุด ณ วันที่ 20 มี.ค.2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังจำนวนรวมสะสม 66 ราย หายป่วยกลับบ้านได้แล้ว 61 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 5 ราย ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน และพบมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส Covid-19 เป็นรายแรกของจังหวัดเชียงราย จำนวน 1 ราย เป็นชาย อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่อ.เทิง อาการล่าสุดยังไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เหนื่อยหอบ ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยได้อยู่ในการกักเก็บตัวและดูแลอาการป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และมีการติดตามเฝ้าระวังบุคคลผู้อยู่ใกล้ชิดภายในบ้านของผู้ป่วยจำนวน 10 ราย ทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว ไม่พบเชื้อจำนวน 9 ราย รอผลยืนยันจำนวน 1 ราย โดยให้กักเก็บตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และห้ามเดินทางไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก
***นายประจญ กล่าวว่า มาถึงวันนี้ถือว่าสถานการณ์ได้เข้ามาใกล้เชียงรายแล้ว มีผู้ติดเชื้อรายแรกของเชียงรายมาจากกรุงเทพฯในพื้นที่เสี่ยงย่านทองหล่อ เพื่อนเขาโทรมาบอกว่าตัวเองติดเชื้อ ตัวผู้ป่วยจึงมาตรวจที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองพบมีค่าเป็นบวกจึงได้กักตัวไว้ดูอาการ ส่วนผู้ใกล้ชิด 10 ราย ได้ตรวจคัดกรองแล้ว พบว่ามีผลเป็นลบ 9 คน เฝ้าสังเกตอาการ 1 คน นอกจากนี้ยังมีการติดตามตรวจสอบผู้ที่เคยอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยตามเส้นทางเดินทาง (Time Line) ทุกคน ซึ่งผลการกักเก็บตัวเมื่อครบ 14 วันแล้วไม่อาการใดๆ ถือว่าไม่ป่วยติดเชื้อ Covid-19
***นายประจญ กล่าวต่อว่า เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในจังหวัดเชียงราย ชาวเชียงราย 1.3 ล้านคน ต้องช่วยกัน อาจกระทบความเป็นอยู่บ้างสักระยะ ทุกคนต้องมีความตระหนักแต่อย่าตื่นตระหนก ส่วนใหญ่คนที่แข็งแรงดีจะสร้างภูมิต้านทานกำจัดเชื้อได้เอง คนที่ไม่แข็งแรงเมื่อติดเชื้อต้องกักตัวเองอยู่ในการดูแลของแพทย์ ยืนยันว่าจังหวัดเชียงรายมีอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ในการรักษาพอเพียง เมื่อทุกคนดูแลตัวเองและดูแลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีก็จะสามารถปลดล็อคอาการและการแพร่ระบาดของเชื้อได้ภายใน 14 วัน
***ด้านนพ.ไชยเวช เปิดเผยว่า ขั้นตอนการเข้าควบคุมตรวจสอบตนไข้รายนี้ เมื่อทราบการพบผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในพื้นที่รอบนอก ได้ส่งเจ้าหน้าที่การแพทย์เข้าไปตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่ระบาด ก่อนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้ามาที่รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อกักตัวผู้ป่วยเฝ้าดูอาการ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ยังไม่แสดงอาการใดๆ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่อ่อนเพลียปวดเมื่อย อยู่ในอาการระดับ 1 ซึ่งสามารถควบคุมอาการป่วยได้
***นพ.ไชยเวช กล่าวเพิ่มเติมว่า ระดับอาการของโรคไวรัส Covid-19 มี 3 ระดับ ได้แก่ ระดับ 1 ไม่มีความรุนแรง อาการเหมือนเป็นหวัดและสามารถหายได้เอง คิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้มีอาการ ระดับ 2 มีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ หายใจหอบ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ต้องกักตัวพักรักษา คิดเป็นร้อยละ 15 ของผู้มีอาการ ต้องใช้ยาต้านไวรัส ระดับ 3 เชื้อเข้าสู่ปอด มีอาการปอดบวม อาจทำให้เสียชีวิตได้ คิดเป็นร้อยละ 5 ของผู้มีอาการ ต้องใช้ยาต้านไวรัสที่รุนแรง ปัจจุบันประเทศจีนสามารถผลิตยาต้านไวรัส Covid-19 ได้แล้ว ซึ่งในประเทศไทยมีใช้แล้วกว่า 100,000 เม็ด พอเพียงใช้รักษาผู้ป่วย โดยผู้ป่วย 1 คนต้องใช้ยาประมาณ 80 เม็ด บุคคลที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษต่อการติดเชื้อ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ผู้มีอาการหนักมาจากโรคอื่น
***ขณะที่นายภาสกร ระบุว่า จังหวัดเชียงรายมีการประกาศข้อสั่งการคณะกรรมการโรคระบาดจังหวัดเชียงราย 12 ข้อ ต่อมาได้ออกประกาศปิดด่านผ่อนปรนและตรวจสอบการเข้าออกด่านถาวรและด่านธรรมชาติอย่างเข้มงวด ออกประกาศปิดสถานบันเทิง และสถานที่ที่มีการชุมนุมของคนจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค สำหรับการรายงานข่าวข้อมูลข้อเท็จจริง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายมีการแถลงข่าวความคืบหน้าทุกวันอังคารและวันพฤหัส ส่วนข่าวเท็จที่มาจากโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง กองบังคับการตำรวจภูมิธรจังหวัดเชียงรายมีการตรวจสอบข่าวต่างๆที่ออกมา หากพบว่าไม่มีมูลความจริงจะติดตามผู้โพสท์และผู้แชร์มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง มีโทษทั้งปรับทั้งจำ จึงขอเตือนประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนแชร์ออกไป
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์