ส่งแรงงานเมียนมา 199 คนกลับบ้านปลอดภัยไร้โควิด-19
***เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2563 ที่บริเวณวัดพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายอุดม จันกิตติ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันและความมั่นคง ที่ทำการปกครองอำเภอแม่สาย ผู้ประสานควบคุมดูแลรับผิดชอบการส่งกลับชาวเมียนมาที่ตกค้างการเดินทางกลับประเทศ เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2563 หลังการปิดจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่านแดนชั่วคราว และช่องทางตามธรรมชาติทุกช่องทางตามพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมา ซึ่งทางการจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมายังไม่เปิดประตูพรมแดนรับชาวเมียนมากลับ ได้ขอให้ทางการไทยกักตัวสังเกตอาการแรงงานทุกคนให้ครบ 7 วันตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกก่อนจึงจะรับตัวกลับ
***หลังจากนั้นหน่วยประสานงานท้องถิ่น TBC ได้ประสานความร่วมมือระหว่างทางการของทั้งสองประเทศ มีข้อตกลงร่วมกันเปิดช่องทางผ่านเข้าออกพรมแดนที่จุดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เป็นการชั่วคราวเฉพาะกิจ และขอขยายเวลาส่งตัวชาวเมียนมาหลังกักตัวสังเกตอาการครบ 7 วันแล้ว โดยมีชาวเมียนมาจำนวน 199 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเขตรัฐฉาน ซึ่งเดินทางเข้ามาเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สมุทรสงคราม และจังหวัดต่าง ๆ ในเขตนิคมอุตสาหกรรม
***สำหรับการส่งกลับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ทางการไทยที่จังหวัดเชียงรายได้มีการกักตัวแรงงานที่จะเดินทางกลับทั้งหมดเป็นเวลา 7 วันเพื่อเฝ้าดูอาการที่วัดพระธาตุดอยเวา โดยเมตตาของพระครูประยุตเจตินุการ เจ้าอาวาสวัดดอยเวา ให้พักอาศัยได้ พร้อมบริการอาหารและน้ำดื่มให้ เมื่อครบ 7 วันแล้ว อำเภอแม่สายร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สาย ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย ด่านศุลกากรแม่สาย ด่านควบคุมโรคติดต่อแม่สาย ตำรวจภูธรแม่สาย และชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารแม่สาย จัดรถสองแถวจำนวน 23 คัน บรรทุกผู้โดยสารคันละ 8 คน นำแรงงานต่างด้าวจากสถานที่กักตัววัดพระธาตุดอยเวาไปยังด่านพรมแดนแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เพื่อส่งต่อแรงงานชาวเมียนมาให้กับทางการจังหวัดท่าขี้เหล็ก ซึ่งทางการเมียนมาได้ตรวจเอกสารการเดินทาง การตรวจลงตราและหนังสืออนุญาตให้ทำงาน พร้อมคัดกรองสุขภาพของแรงงานพร้อมครอบครัวทุกคน ก่อนรับไปควบคุมกักตัวสังเกตอาการตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกต่อไปอีก 14 วัน ที่บริเวณสถานที่กักตัวใกล้ชายแดนฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก หากไม่มีอาการผิดปกติหรือมีไข้สูงจึงปล่อยให้เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาของแต่ละคนต่อไป
Cr. สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์