ผู้ว่าฯเชียงรายส่งทีมนักรบชุดขาวช่วยปฏิบัติการต้านโควิดสมุทรสาคร
***เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ก.พ.2564 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ห้าแยก อ.เมืองเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย ร่วมพิธีส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) จำนวน 49 คน ไปปฏิบัติภารกิจช่วยปฏิบัติการสู้ภัยโควิด 19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ประกอบด้วย 8 ชุดปฏิบัติการ ชุดละ 6-7 คน มี นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน และนพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมส่งทีมนักรบชุดขาวเชียงรายคับคั่ง
***โดยวันที่ 6 ก.พ.2564 ได้ส่ง 2 ทีมแรก จำนวน 12 คน ไปร่วมปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 8-13 ก.พ.2564 ประกอบด้วย 1.นายวิสูตร์ เสน่หา สาธารณสุขอำเภอเทิง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเทิง 2.นายชาตรี สุทธมงคล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเทิง 3.นายอิทธิพัทธ์ ปินตานา นักวิชาการสาธารณสุข สังกัดสำนักงานสาธารณสุขอำเภอพาน 4.นายวิทยา สีฟ้า นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สังกัดสำนักงานสาธารณสุขอำเภอพาน 5.นายวิทยา กันจู นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สรวย 6.นายพงษ์ศธร แก้วพลิก นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สำนักงานสาธารณสุขเวียงป่าเป้า 7.นายวรพล วุทธา เจ้าพนักงานสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขเวียงป่าเป้า 8.นายอนันท์ ดวงอินต๊ะ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขพญาเม็งราย 9.นายพีรฉัตย์ แจขจัด นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอขุนตาล 10.นายพรชัย บุญเรือง นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ โรงพยาบาลขุนตาล 11.นายไกรสร อริยะวงค์ พนักงานขับรถ โรงพยาบาลแม่สรวย 12.นายธัญพิสิทธิ์ กันทะสาร พนักงานขับรถยนต์ โรงพยาบาลพญาเม็งราย
***นพ.ทศเทพ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (Covid-19) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากและต่อเนื่อง ทำให้ทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ที่ดำเนินการสอบสวนควบคุมโรคมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน เกิดความเหนื่อยล้า ทางจังหวัดสมุทรสาครจึงได้ร้องขอรับการสนับสนุนทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) จากทั่วประเทศ เพื่อช่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สงบโดยเร็ว ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายจึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมปฏิบัติการควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครในครั้งนี้ด้วย โดยประสานขอรับการสนับสนุนบุคลากรจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ เข้าร่วมปฏิบัติการ โดยแบ่งเป็น 8 ทีมๆ ละ 6-7 คน จำนวนทั้งสิ้น 49 คน มีผวจ.เชียงรายเป็นประธานพิธีส่งทีมงาน พร้อมให้โอวาทและมอบเสื้อปฏิบัติงานและวัตถุมงคลให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผวจ.เชียงรายได้นำผ้ายันต์จากวัดพระธาตุดอยตุงมามอบให้เจ้าหน้าที่ทุกคนด้วย
***ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ขอชื่นชมและขอบคุณในความเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เป็นตัวแทนของทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) จังหวัดเชียงราย เดินทางไปปฏิบัติภารกิจระดับประเทศที่สำคัญ ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เชื่อมั่นว่าทีมแพทย์และสาธารณสุขของจังหวัดเชียงรายไม่แพ้จังหวัดใดๆในประเทศและทั่วโลก เราเผชิญสถานการณ์ตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อต้นปี 2563 มีผลปฏิบัติการเป็นอย่างดี มีผู้ติดเชื้อเพียง 9 คน ในช่วงการระบาดรอบที่ 2 เชียงรายพบผู้ติดเชื้อรวม 65 คน เป็นผู้ติดเชื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดเชียงรายมีการเตรียมแผนรับมือไว้เป็นอย่างดี ติดตามควบคุมกักตัวจนสามารถรักษาหายกลับบ้านได้ทุกคน มีการติดเชื้อในพื้นที่เพียงรายเดียวก็รักษาตัวหายแล้วและไม่มีผู้เสียชีวิต เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดเชียงราย ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ดีเป็นอันดับ 4 ของโลก และเชื่อมั่นว่าสถานการณ์โควิด 19 จะหมดไปจากประเทศไทยและหมดไปจากโลกในเร็ววันนี้
***นายวิสูตร เสน่หา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเทิง กล่าวว่า ตนได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้เป็นอย่างดีแล้ว รู้สึกดีใจมากที่จะได้ไปช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จังหวัดสมุทรสาคร ตนมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องชุดป้องกันการติดเชื้อ อุปกรณ์ ระบบงาน มีการศึกษางานที่จะไปทำล่วงหน้า แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ระบาดแต่ได้มีการเตรียมการณ์อย่างดีจึงไม่ได้กังวล คิดว่าจะไปช่วยชาวสาธารณสุขด้วยกันและคนไทยในพื้นที่สมุทรสาคร บุคลากรสาธารณสุขเชียงรายมีประสบการณ์ที่ดีมาแล้ว น่าจะแบ่งเบางานในพื้นที่ได้มาก
***น.ส.อรอุมา รานะเรศ นักวิชาการสาธารณสุขอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่า มีความรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในสายวิชาชีพของตนเองที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือคนไทย ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้วจึงเต็มใจที่จะเดินทางไปช่วยงาน ทางครอบครัวก็ไม่ติดใจอะไรด้วย โดยส่วนใหญ่ทำหน้าที่ในการคัดกรอง แต่ยังไม่เคยอยู่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อแล้ว ตนจึงได้เตรียมเรียนรู้งานและการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นอย่างดี
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์