“อนุทิน” ตรวจสถานการณ์โควิดเชียงรายให้กำลังใจส่วนหน้า ย้ำวัคซีนมาตามกำหนด เชื่อมโยงท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
***เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ก.ค.2564 ที่ห้องประชุมอาคารเสม พริ้งพวงแก้ว โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานการณ์โควิดจังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครอนามัย มีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย ให้การต้อนรับ
***ก่อนนายอนุทินเข้ารับฟังบรรยายสรุปและประชุมมอบนโยบาย มีกลุ่มผู้ประกอบการ 3 กลุ่มอาชีพยื่นหนังสือขอพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ สถานบันเทิง นักดนตรี ขอให้ผ่อนผันให้มีการนั่งดื่มกินภายในร้านได้ เนื่องจากจังหวัดเชียงรายไม่ใช่พื้นที่สีแดงหรือพื้นที่เสี่ยง สมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย โดยนายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมฯเป็นผู้ยื่น ขอโควตาพิเศษในการเร่งฉีดวัคซีนให้บุคลากรภาคโรงแรม เพราะโรงแรมเป็นด่านหน้าที่ต้องพบปะนักท่องเที่ยวก่อน โดยเฉพาะโอกาสที่จังหวัดเชียงรายจะเชื่อมโยงกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขอสถาบันการเงินของภาครัฐรีไฟแนนซ์หนี้สินเก่าให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยปลอดการส่งเงินต้น 3-5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 5 % และขยายเวลามาตรการซอฟโลนดอกเบี้ยต่ำ 2 % ออกไปอีก 2 ปี เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อล้านนา โดยนายนเรศ รัศมีจันทร์ ประธานเครือข่ายฯ ขอให้องค์การอาหารและยา (อย.) อนุมัติให้ใช้วัคซีนโรคโคเนื้อ Lumpy Skin ได้ เนื่องจากเกษตรกรเลี้ยงวัวเดือดร้อนโคตายขายไม่ได้ราคา ซึ่งนายอนุทินรับนำไปพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
***ภายหลังการฟังบรรยายสรุปและมอบนโยบาย นายอนุทินได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การตรวจพื้นที่ในวันนี้เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 ที่ติดเชื้อจากผู้ป่วย จำนวน 49 ราย ซึ่งปัจจุบันมีอาการดีขึ้นและส่วนใหญ่หายป่วยแล้ว ยังเหลือรักษาตัวอีก 8 คนบุคลากรที่ป่วยที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วทำให้อาการป่วยไม่รุนแรงและหายป่วยได้เร็ว
***กรณีวัคซีนจะมีการนำเข้ามาอย่างสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่า 10 ล้านโดส/เดือน สามารถจัดสรรได้ทั่วประเทศ และจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่โดยเร็ว ซึ่งประเทศไทยใช้วัคซีนอยู่ 3 ยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพที่ดีมีความปลอดภัยกับผู้ใช้ ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม การรับวัคซีนจะช่วยให้อาการของโรคมีความรุนแรงน้อยลง ลดอัตราการเสียชีวิตลง จึงขอให้ประชาชนเชื่อในวัคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อที่ประเทศไทยใช้
***นายอนุทินยังกล่าวต่ออีกว่า หลังจากจังหวัดภูเก็ตเปิดโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกแล้ว จังหวัดเชียงรายหรือจังหวัดอื่นที่ต้องฟื้นการท่องเที่ยวก็ต้องใช้วิธีเดียวกันนี้ ทั้งนี้ต้องมีความร่วมมือกันทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ช่วยกันดูแลตัวเองให้เกิดความเสี่ยงน้อย ไม่มีการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ก็จะสามารถทยอยเปิดพื้นที่ได้
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์
