ไทย-คาซัคสถาน ร่วมลงนามข้อตกลงการศึกษาและวัฒนธรรม “ดร.เอ” นำทีมร่วมลงนามดันเชื่อม “การท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ”
***เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 ที่สถานทูตคาซัคสถาน ประจำประเทศไทย นางราสชาน เยสบูลาโตว่า (Ms.Raushan Yesbulatova) เอกอัครราชทูตคาซัคสถาน ให้การต้อนรับ “ดร.เอ” ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ ประธานสมาพันธ์ SME จ.เชียงราย เเละ น.ส.อาภากร วิภารุ่งโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยนานาชาติ และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง สมาคมส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยนานาชาติ และ Kaz-Thai Alliance โดย น.ส.เเอสเซล เบคบาเยวา เเละนายพีระพล พิภวากร ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรโดยดำริของเอกอัครราชทูตคาซัคสถานเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและคาซัคสถาน โดยมีวัตถุประสงค์ของการลงนามข้อตกลงเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนทั้งสองประเทศได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำกิจกรรมร่วมกัน เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมของตนเองและเผยแผ่วัฒนธรรมของตนในต่างแดน เพื่อให้เยาวชนได้ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรม ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เยาวชนมีประสบการณ์ในต่างแดน เพิ่มโลกทัศน์ให้กว้างไกล เห็นโอกาสศึกษาต่อในต่างประเทศง่ายขึ้น และยังส่งเสริมให้เยาวชนมั่นใจในตนเอง สร้างภาวะผู้นำ รู้จักแก้ปัญหาด้วยตนเอง รู้จักการเสียสละเพื่อส่วนรวมและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างได้อย่างดี
***เนื้อความในบันทึกข้อตกลงมีรายละเอียดดังนี้ 1)พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวและเส้นทางโลจิสติกส์ระหว่างสองประเทศ 2)จัดตั้งโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษาระหว่างนักเรียนไทยและนักเรียนคาซัคสถาน 3)นำเสนอบทบาทของวิถีชุมชน ประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง และเผยแพร่วัฒนธรรมของตนให้อีกประเทศได้มีส่วนร่วม 4)ส่งเสริมกิจกรรมร่วมกันระหว่าง 2 องค์กร เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอันดีงาม นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมของตนแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนและส่งต่อวัฒนธรรมอันดีงามระหว่างกันด้วย
***ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ ประธานสมาพันธ์ SME เชียงราย กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางกลุ่ม Kaz-Thai Alliance ได้ส่งผลิตภัณฑ์ LYN’S COLLAGEN เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของประเทศไทยจำนวน 20,000 กล่อง เพื่อทำการทดลองตลาดในประเทศคาซัคสถาน ซึ่งทางกลุ่มได้สร้างพันธมิตรกลุ่มนักธุรกิจที่สนใจสินค้าส่งออก ได้แก่ เครื่องสำอางและอาหารเสริมรวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลไว้พร้อมแล้ว เนื่องจากประเทศในทวีปเอเชียกลางเป็นตลาดใหญ่ และประชาชนคาซัคสถานยังนิยมชื่นชอบสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยเป็นอย่างมากด้วย
***ด้านน.ส.อาภากร วิภารุ่งโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยนานาชาติ กล่าวว่า การเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถานด้วยการแลกเปลี่ยนนักเรียนนักศึกษาเป็นเรื่องจำเป็นมาก จากประสบการณ์การทำงานในโครงการเยาวชนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศมากว่า 5 ปี พบว่ากิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมีประโยชน์มากต่อประเทศชาติและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้เยาวชนได้เพิ่มพูนประสบการณ์ความรู้เพื่อนำไปพัฒนาตนเองและประเทศของตนได้เป็นอย่างดี
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์