เชียงรายจัดพิธีรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
***เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 ต.ค.2564 ที่บริเวณโถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วยนางบุษบา บุญญลักษม์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ทหาร ตำรวจ ร่วมพิธีวางพวงมาลาเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2564 ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
***พิธีการโดยลำดับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้พิพากษาอัยการ ทหาร ตำรวจ ถวายความเคารพต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอ่านคำสดุดีพระเกียรติคุณและถวายความจงรักภักดี เสร็จแล้วผู้ร่วมพิธีทั้งหมดแสดงความเคารพและยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที เป็นอันเสร็จพิธี
***พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ที่โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จขึ้นครองราชย์วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในประเทศไทย
***ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา พระองค์ทรงมีพระปรอทต่ำ หายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะ พระปับผาสะ (ปอด) ซ้ายอักเสบ มีพระโลหิตเป็นกรด และพบว่ามีน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มพระปัปผาสะเล็กน้อย คณะแพทย์จึงทำการรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะ และใช้สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อฟอกพระโลหิต แต่มีพระความดันพระโลหิตต่ำจึงใช้เครื่องช่วยหายพระทัย พระอาการไม่คงที่ ก่อนที่พระอาการจะทรุดลงไปอีก มีการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต จนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระอาการประชวรได้ทรุดหนักลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อเวลา 15.52 น. รวมพระชนมายุ 88 พรรษา ทรงครองราชย์ 70 ปี 4 เดือน 4 วัน
/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์