พศย.เชียงรายพบพ่อเมืองเชียงรายควบคุมยาสูบ-แอลกอฮอลล์เยาวชน นักดื่มเชียงรายอันดับ 3 ของประเทศ น่าห่วงเยาวชนเป็นนักสูบหน้าใหม่

***เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ก.พ.2565 ที่ห้องพวงแสด ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.เชียงราย มอบหมายให้นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผวจ.เชียงราย รับข้อเสนอแนวนโยบายการขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จังหวัดเชียงราย เครือข่ายภาคประชาสังคมสนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จังหวัดเชียงราย ภายใต้ศูนย์พัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านการควบคุมยาสูบ (พศย.) ภาคเหนือ นำโดยนายฤทธิรงค์ หน่อแหวน ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมฯ และผศ.ดร.รัชนี มิตกิตติ เลขานุการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เพื่อหารือขอสนับสนุนด้านนโยบายพัฒนากลไกภาคประชาสังคมในการควบคุมการบริโภคยาสูบระดับจังหวัด ทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมให้มีศักยภาพในการบูรณาการงานควบคุมการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อย่างยั่งยืนในระดับพื้นที่ ซึ่งผลการหารือจะได้นำเสนอแนวทางการบูรณาการความร่วมมือให้เป็นนโยบายสำคัญของจังหวัด โดยเบื้องต้นจะได้นำเสนอข้อมูลในการประชุมกรมการจังหวัดในครั้งต่อไป

***นายฤทธิรงค์ หน่อแหวน ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมฯ กล่าวว่า จากข้อมูลพื้นที่การขับเคลื่อนงานควบคุมการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จังหวัดเชียงราย ผ่านกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ในเขตพื้นที่ อ.พาน อ.เวียงชัย อ.แม่จัน อ.แม่สรวย อ.เทิง และอ.เชียงแสน พบว่า จังหวัดเชียงรายมีอัตราการสูบบุหรี่ของประชากร ร้อยละ 12.61 เป็นจำนวน 119,819 คน อัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของประชากร ร้อยละ 41.4 เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีการจัดสถานศึกษาต้นแบบปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน จำนวน 118 แห่ง สถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่ 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย และมหาวิทยาลัยเชียงราย จัดกิจกรรมลดนักดื่มและนักสูบหน้าใหม่โดยการสร้างเครือข่ายเยาวชนผู้นำการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่อำเภอนำร่อง กลุ่ม Gen Z Strong ไม่สูบไม่ดื่ม ระดับจังหวัด กลุ่ม YSDN (Young Stop drink Network) ใน อ.แม่จัน อ.เวียงชัย อ.พาน

***นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมช่วยการเลิกสูบบุหรี่ ได้แก่กิจกรรม Hero No Smoking เลิกสูบ ลดเสี่ยง เพื่อตัวคุณและคนที่คุณรัก มีผู้ร่วมโครงการจำนวน 300 คน สามารถเลิกบุหรี่ได้ 78 คน คิดเป็นร้อยละ 26 การจัดตั้งชมรมคนหัวใจเพชร ในชุมชนแหล่งเรียนรู้ เพื่อขยายเครือข่ายคนเลิกเหล้า สร้างคน สร้างอาชีพ จัดการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ในงานบุญ งานประเพณีต่างๆ จำนวน 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านจ้อง อ.แม่สาย ชุมชนบ้านป่ายาง อ.แม่จัน ชุมชนบ้านจอเจริญ อ.เวียงชัย ชุมชนบ้านโป่งช้าง อ.เทิง และชุมชนบ้านหัวฝาย อ.พาน นายฤทธิรงค์กล่าว
***ด้านผศ.ดร.รัชนี มิตกิตติ เลขานุการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ประเด็นเชิงนโยบายในการหนุนเสริมการขับเคลื่อนการดำเนินงานควบคุมการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในระดับจังหวัดที่เสนอต่อจังหวัดเพื่อพิจารณาเป็นนโยบายหลักสำคัญของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บังคับใช้กฎหมาย พรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 และพรบ.ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ พ.ศ.2551 เรื่องการไม่ขายบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้แก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และให้มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ผ่านกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.)

***นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ความร่วมมือภาคหน่วยงานรัฐกับภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของจังหวัดเชียงรายมีความเข้มแข็งดีมาก แต่การขับเคลื่อนในระดับ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ควรต้องมีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (พชต.) ด้วย โดยใช้คนที่มีศักยภาพในพื้นที่ชุมชนมาเป็นแนวร่วมแกนนำ เพราะคนในชุมชนจะให้ความนับถือเชื่อมั่น ได้แก่ ปราชญ์ชุมชน พระ สาธารณสุขตำบล ครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น ในปัจจุบันอัตราการสูบบุหรี่เริ่มมีแนวโน้มลดลง แต่อัตราการดื่มเครื่องแอลกอฮอลล์ยังไม่มีอัตราลดลงเลย และยังเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้มีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากที่สุด จึงยังคงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดด้วย จึงควรต้องเข้มงวดในเรื่องการห้ามดื่มสุราในสถานที่ราชการ การจัดงานในพื้นที่ราชการห้ามจำหน่ายและดื่มสุราอย่างเด็ดขาด จะเป็นการช่วยรณรงค์ได้ทางหนึ่ง ด้านการสูบหรี่น่าเป็นห่วงนักสูบหน้าใหม่โดยเฉพาะเยาวชน การบังคับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือที่ควรดำเนินการ ซึ่งอยากให้เครือข่ายได้นำเสนอข้อประเด็นและวิธีการเพื่อนำเสนอในการประชุมกรมการจังหวัดในครั้งต่อไป

/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์